เมนู

4. ภุสเปตวัตถุ



ว่าด้วยบุพกรรมของเปรตทั้ง 4



พระมหาโมคคัลลานะ ได้ถามบุพกรรมของเปรตทั้ง 4
ด้วยคาถานี้ ความว่า :-
[114] ท่านทั้ง 4 นี้ คนหนึ่งกอบเอาแกลบข้าว
สาลีที่ไฟลุกโชนโปรยใส่ศีรษะของตนเอง อีก
คนหนึ่งทุบศีรษะของตนด้วยฆ้อนเหล็ก ส่วน
คนที่เป็นหญิงเอาเล็บจิกหลังกินเนื้อและเลือดของ
ตนเอง ส่วนท่านกินคูถอันเป็นของไม่สะอาด ไม่
น่าปรารถนา นี้เป็นวิบากกรรมอะไร.

ภรรยาของพ่อค้าโกงตอบว่า
เมื่อชาติก่อน ผู้นี้เป็นบุตรของดิฉัน ได้ดี
ศีรษะของฉันผู้เป็นมารดา ผู้นี้เป็นสามีของดิฉัน
เป็นพ่อค้าโกงข้าวเปลือกปนแกลบ ผู้นี้ลูกสะใภ้
ของดิฉัน ลักกินเนื้อแล้วกลับหลอกลวงด้วย
มุสาวาท ดิฉันเมื่อเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในมนุษยโลก
เป็นหญิงแม่เรือน เป็นใหญ่กว่าสกุลทั้งปวง เมื่อ
สิ่งของมีอยู่ เหล่ายาจกขอก็เก็บซ่อนเสีย ไม่ได้
ให้อะไรจากของที่มีอยู่ ปกปิดไว้ด้วยมุสาวาทว่า
ของนี้ไม่มีในเรือนของเรา ถ้าเราปกปิดของที่มีไว้

ขอคูถจงเป็นอาหารของเรา ภัตแห่งข้าวสาลีอัน
มีกลิ่นหอม ย่อมกลับกลายเป็นคูถเพราะวิบาก
แต่งกรรม คือ มุสาวาทของดิฉัน ก็กรรมทั้งหลาย
ไม่ไร้ผล กรรมนั้นย่อมไม่สาบสูญ เพราะฉะนั้น
ดิฉันจึงกินและดื่มแต่มูตร อันมีกลิ่นเหม็น
มีหนอน.

จบภุสเปตวัตถุที่ 4

อรรถกถาภุสเปตวัตถุที่ 4



เมื่อพระศาสดา ประทับอยู่ในกรุงสาวัตถุ ทรงปรารภ
เปรต 4 ตน จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า ภุสานิ
เอโก สาลี ปุนาปโร
ดังนี้.
ได้ยินว่า ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ไกลแต่กรุงสาวัตถี
มีพ่อค้าโกงคนหนึ่ง เลี้ยงชีพด้วยอเนสนากรรมมีการโกงด้วยตราชั่ง
เป็นต้น. เขาถือเอาฟ่อนข้าวสาลี เคล้าด้วยดินแดง ทำให้หนักกว่า
เดิม ปนกับข้าวสาลีแดงแล้วขาย. บุตรของเขาโกรธว่า คุณพ่อ
ไม่ยอมให้เกียรติยกย่องมิตรสหายของเรา ผู้มาสู่เรือนเสียเลย
ได้ถือเอาเชือกหนัก 2 เส้น ตีศีรษะมารดา. หญิงสะใภ้ของเขา
ลักกินเนื้อที่เก็บไว้สำหรับชนทั้งปวงแล้ว เมื่อถูกชนเหล่านั้น
ซักไซร้จึงให้คำสบถว่า ถ้าเรากินเนื้อนั้นจริง ก็ขอให้เราพึง
เฉือนเนื้อสันหลังของตนแล้วกินทุก ๆ ภพไปเถิด. ฝ่ายภริยาของเขา